2.ตัวแปลภาษา
                  การพัฒนาซอฟแวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูงเพื่อแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง
         ภาษาระดับสูงมีหลายภาษาซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เขียนโปรแกรมเขียนชุดคำสั่งได้ง่าย เข้าใจได้ และเพื่อสามารถปรับปรุงแก้ไขซอฟแวร์ในภายหลังได้ภาษาระดับสูงที่พัฒนาขึ้นทุกภาษาต้องมีตัวแปลภาษาซึ่งภาษาระดับสูงได้แก่ ภาษา Basic,Pascal,Cและภาษาโลโก เป็นต้น
                 นอกจากนี้ ยังมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอีกมากได้แก่ Fortran,cobol,และภาษาอาร์พีจี
 2.    2  ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application Software)
                    ซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ทำงานเฉพาะด้าน เช่น การจัดพิมพ์รายงาน
 ก     การนำเสนองาน การจัดทำบัญชี การตกแต่งภาพ หรือการออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น
       
       ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์ 
       แบ่งตามลักษณะการผลิต จำแนกได้เป็น 2 ประเภทคือ 
                    1.ซอฟแวร์ท่พัฒนาขึ้นใช้เองโดยเฉพาะ (Proprietary Software)
                2.ซอฟแวร์ที่หาซื้อได้ทั้วไป (Packaged Software) มีทั้งโปรแกรมเฉพาะ (Customized Software)
                    และโปรแกรมมาตรฐาน (Standard Package)
              
ป    ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์
       แบ่งตามกลุ่มการใช้งาน จำแนกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆดังนี้ 
                   1.กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ (Business)
               2.กลุ่มการใช้งานด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย (Graphic and Multimedia)
               3.กลุ่มการใช้งานบนเว็บ (Web and Communications)
   
ก      กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ (Business)
                 ซอฟแวร์กลุ่มนี้ ถูกนำมาใช้โดยมุ่งหวังให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่น การจัดพิมพ์รายงานเอกสาร นำเสนองานและการบันทึกนัดหมายต่างๆ ตัวอย่างเช่น
         โปรแกรมประมวลคำ อาทิ Microsoft Word , Sun StarOffice Writeer
         โปรแกรมตารางคำนวนณ อาทิ Microsoft Excel, Sun StarOffice Cals
         โปรแกรมนำเสนองาน อาทิ Microsoft PowerPoint, Sun StarOffice Impress
        
        กลุ่มการใช้งานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย
             ซอฟแวร์กลุ่มนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยจัดการด้านงานกราฟิกและมัลติมีเดีย เพื่อให้งานง่ายขึ้น
        เช่น ใช้ตกแต่ง วาดรูป ปรับเสียง ตัดต่อ ภาพเคลื่อนไหว และการสร้างและออกแบบเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น  
        โปรแกรมงานออกแบบ อาทิ Microsoft Visio Professional
        โปรแกรมตกแต่งภาพ อาทิ CorelDRAW, Adobe Photoshop
        โปรแกรมตัดต่อวีดีโอและเสียง อาทิ Adobe Premiere, Pinnacle Studio DV
        โปรแกรมสร้างสื่อมัลติมีเดีย อาทิ Adobe Authorware,Toolbook Instructor,Adobe Director
        โปรแกรมสร้างเว็บ อาทิ Adobe Flash, Adobe Dreamweaver
               
        กลุ่มการใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร
             เมืองเกิดการเติบโตของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตซอฟแวร์กลุ่มนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะ 
เ      เพิ่มมากขึ้น เช่น โปรแกรมการตรวจเช็คอีเมล การท่องเว็บไซต์ การจัดการดูแลเว็บ และการส่งข้อความ
       ติดต่อสื่อสาร การประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย ตัวอย่างโปรแกรมในกลุ่มนี้ได้แก่ :
     โปรแกรมจัดการอีเมล อาทิ Microsoft Outlook ,Mozzila Thunderbird 
      โปรแกรมท่องเว็บ อาทิ Microsoft Internet Explorer,Mozzila Firefox
      โปรแกรม ประชุมทางไกล (Video Conference) อาทิ Microsoft Netmeeting
      โปรแกรมส่งข้อความด่วน (Intant Messaging) อาทิ MSN Messenger/ Windows Messenger,ICQ
      โปรแกรมสนทนาบนอินเตอร์เน็ต อาทิ PIRCH,MIRCH

ค     ความจำเป็นของการใช้ซอฟต์แวร์  
               การใช้ภาษเครื่องนี้ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้ทันที่ แต่มนุษย์ผู้ใช้จะมีข้อยุ่งยากมากเพราะ
       เข้าใจและจดจำได้ยาก จึงมีผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่เป็นตัวอักษร เป็นประโยคข้อความ
      ภาษาในลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่าภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูง ภาษาระดับสูงมีอยู่มากมายบางภาษา
       มีความเหมาะสมกับการใช้สั่งงานการคำนวณทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บางภาษามี
       ความเหมาะสมไว้ใช้สั่งงานทางด้านการจัดการข้อมูล
    
        ซอฟแวร์และภาษาคอมพิวเตอร์
               เมื่อมนุษย์ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงานมนุษย์จะต้องบอกขึ้นตอนวิธีการให้คอมพิวเตอรทราบการที่บอกสิ่งที่มนุษย์เข้าใจให้คอมพิวเตอร์รับรู้และทำงานได้อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องมีสื่อกลางเปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันแล้วเรามีภาษาที่ใช้ในการติดต่อซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกันถ้ามนษย์ต้องการถ่ายทอดความต้องการให้คอมพิวเตอร์รับรู้ และปฏิบัติตามจะต้องมีสื่อกลางสำหรับการติดต่อเพื่อคอมพิวเตอร์รับรู้เราเรียกสื่อกลางนี้ว่า ภาษาคอมพิวเตอร์

         ภาษาคอมพิวเตอร์ในแต่ละยุคประกอบด้วย
         ภาษาเครื่อง (Machine Languages)
                 เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสัญญาณทางไฟฟ้าใช้แทนด้วยตัวเลข0 และ 1 ได้ ผู้ออกแบบ
         คอมพิวเตอร์ใช้ตัวเลข 0 และ 1 นี้เป็นรหัสแทนคำสั่งในการสั่งงานคอมพิวเตอร์ รหัสแทนข้อมูลและคำสั่งโดยระบบเลขฐานสองนี้ คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ เราเรียกเลขฐานสองที่ประกอบกันเป็นชุดคำสั่งและช้สั่งงานคอมพิวเตอร์ว่าภาษาเครื่อง
                การใช้ภาษาเครื่องนี้ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้ทันทีแต่มนุษย์ผู้ใช้จะมีข้อยุ่งยากมากเพราะเข้าใจและจดจำได้ยาก จึงมีผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นที่เป็นตัวอักษร
                
         ภาษาแอสเซมบลี (Assembly Languages)

               เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 2 ถัดจากภาษาเครื่อง ภาษาแอสแซมบลีช่วยลดความยุ่งยากลงในการเขียนโปรแกรมเพื่อติดต่อกับคอมพิวเตอร์แต่อย่างไรก็ตามภาษาแอสแซมบลีก็ยังมีความใกล้เคียงภาษาเครื่องอยู่มากและจำเป็นต้องใช้ตัวแปลภาษาที่เรียกว่าแอสเซมเบลอร์ (Assembler) เพื่อแปลชุดภาษาแอสเซมบลีให้เป็นภาษาเครื่อง

        ภาษาระดับสูง (High-Level Languages)
                  เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 3 เริ่มมีการใช้ชุดคำสั่งที่เรียกว่า Statements ที่มีลักษณะเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ทำให้ผู้ที่เขียนโปรแกรมสามารถเข้าใจชุดคำสั่งเพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานง่ายขึ้น ผู้คนไปสามารถเรียนรู้และเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น เนื่องจากภาษาระดับสูงใกล้เคียงภาษามนุษย์
         ตัวแปลภาษาระดับสูงเพื่อให้เป็นภาษาเครื่องนั้นมีอยู่ 2 ชนิด ด้วยกันคือคอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเทอร์พรีเตอร์ (Interpreter)
          คอมไพเลอร์ จะทำการแปลโปรแกรมที่เขียนเป็นภาษาระดับสูง ทั้งโปรแกรมให้เป็นภาษาเครื่องก่อนแล้วจึงคอมพิวเตอร์ทำงานตามภาษาเครื่องนั้น
         อินเทอร์พรีเตอร์ จะทำการแปลทีละคำสั่ง แล้วให้คอมพิวเตอร์ทำตามคำสั่งนั้น เมื่อทำเสร็จแล้วจึงมาทำการแปลคำสั่งลำดับต่อไป ข้อแตกต่างระหว่างคอมไพเลอร์กับอินเทอร์พรีเตอร์ที่การแปลทั้งโปรแกรมหรือแปลทีละคำสั่ง
        
       อ้างอิงอาจารย์ ดร.ทัศนีย์  บุญชูวิทย์. (2555). แบบการเรียนการสอนเรื่องตัวแปลภาษา. ค้นเมื่อกรกฎาคม 262555.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น